บอกลาน้ำมันแล้วหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้า

ด้วยสภาพปัญหาน้ำมันทีมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทบทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารการกิน สินค้าต่างๆ และที่กระทบมากที่สุดนั้นก็คือ “การเดินทาง” ซึ่งการที่เราจะประหยัดได้มากที่สุดนั้นก็คือ การใช้รถสาธารณะหรือเปลี่ยนรถเป็นระบบที่สามารถช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมันนั้นเองครับ และด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างมากซึ่งกำลังมาแรงและทุกๆ ท่านน่าจะต้องการเป็นเจ้าของกัน คงไม่หนีไม่พ้น “รถขับเคลื่อนไฟฟ้า” นั้นเองครับ บทความนี้จะพาทุกๆ ท่านบอกลาน้ำมันแล้วหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันครับ แต่ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักและวางแผนเตรียมตัวกันเสียก่อนจึงจะดีที่สุดครับ

รถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า นวัตกรรมที่น่าสนใจ

รถยนต์ไฟฟ้า นั้นเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เก็บอยู่ในแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าแบบอื่นๆ ซึ่งการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้านอกจากจะอัตราเร่งดีแล้ว ยังไม่มีการปล่อยมลพิษทางอากาศอีกด้วยครับ

รถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้าดีกว่ารถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างไรบ้าง?

●ประหยัดค่าพลังงานเชื้อเพลิง หากเราเปรียบเทียบระหว่างค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้าในปัจจุบันนั้น จะเห็นได้ทันทีเลยว่า ค่าไฟที่ใช้ในการชาร์จรถขับเคลื่อนไฟฟ้า ถูกว่าเห็นๆ เลยหล่ะครับ ถึงแม้ราคารถขับเคลื่อนไฟฟ้าจะสูงกว่าในตอนแรก แต่หากเปรียบเทียบในระยะยาวแล้ว คุ้มกว่ามากเลยครับ

●ประหยัดค่าซ่อมบำรุง นอกจากรถขับเคลื่อนไฟฟ้าจะช่วยคุณประหยัดเงินค่าน้ำมันแล้ว เรื่องของค่าซ่อมบำรุงต่างๆ ก็ถูกกว่าเช่นกัน เพราะไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อยๆ และส่วนประกอบต่างๆ ก็น้อยกว่ารถธรรมดาเป็นอย่างมาก ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยกว่า อีกทั้งยังดูแลรักษาเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาในการนำรถยนต์ไปเข้าอู่บ่อยๆ ครับ

●ช่วยลดมลภาวะ สำหรับโลกของเราที่ตกอยู่ในสภาวะโลกร้อน รถยนต์ไฟฟ้าคือคำตอบที่เหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับการลดมลภาวะของโลก เพราะไม่มีการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่ก่อให้เกิดไอเสียและมลภาวะทางอากาศที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อน เช่นควันไอเสียของรถยนต์ก็จะหายไป

ข้อเสียของรถขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ต้องรู้

●รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาสูง

แน่นอนว่าเทคโนโลยีใหม่ก็จะมาด้วยเรื่องของราคาที่สูงตามไปด้วย ตัวอย่างที่เราเห็นก็จะเป็น แบรนด์รถไฟฟ้าอย่าง ORA GOODCAT ที่ได้เปิดตัวไปไม่นาน ถือว่าเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ราคาไม่เล็กตามตัว หรือจะเป็น Tesla Model S ที่เลื่องลือในเรื่องของความแรง แต่ก็มีราคาสูงถึง 2.4 ล้านกันเลยทีเดียว เพราะด้วยเทคโลโลยีเก็บพลังงานขนาดใหญ่อย่างแบตเตอรี่ในรถยนต์ยังมีราคาสูงถึง 50% ของราคาตัวรถ เพราะฉะนั้นเทคโนโลยีใหม่แบบนี้จึงทำให้มีราคาแพงนั่นเอง

●ใช้ระยะเวลาในการชาร์จนาน

ถือว่าเป็นข้อเสียหลักของรถประเภทนี้ เพราะเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นยังไม่สามารถชาร์จพลังเพื่อให้รวดเร็วต่อการใช้งานได้รวดเร็วเท่าที่ควร แต่ก็ถือว่ายังพอรับได้สำหรับคนที่ไม่เร่งรีบอะไร เพราะการชาร์จแบบเร็วสุดในแต่ละครั้งจะต้องใช้เวลาถึง ครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อยเลยทีเดียว

●สถานีชาร์จไฟฟ้า ยังรองรับไม่แพร่หลาย

หากคุณเป็นคนที่ชอบเดินทางไปในที่ไกลๆอาจจะต้องเตรียมการเดินทางวางแผนกันซักหน่อย เพราะหากคุณเดือนทางไกลมากๆ อาจจะจอดแด้เอากลางทางได้ แน่นอนว่าขีดจำกัดของรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นไม่ใช่แค่เรื่องระยะทางเท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องของจุดชาร์จพลังงานที่รองรับกันอย่างไม่แพร่หลายมากนัก นั่นเองหากคุณเดินทางไปในที่ธุระกันดาลคุณจะชาร์จพลังงานได้อย่างไร ฉะนั้น อาจจะต้องรอความพร้อมในเรื่องนี้กันอีกซักหน่อย

         เป็นอย่างไรบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับรถขับเคลื่อนไฟฟ้าที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในวันนี้ หากท่านสนใจที่จะเป็นเจ้าของรถขับเคลื่อนไฟฟ้าแต่ยังไม่มีความจำเป็นมากนัก ก็อยากให้รออีกสักพักกันก่อนนะครับ เพราะนโยบายและราคาของรถอาจถูกลงกว่าปัจจุบันเพราะการแข่งขันของตลาดที่กำลังสูงขึ้นนั้นเองครับ อีกทั้งสถานีชาร์จน่าจะครอบคลุมมากกว่าปัจจุบันอีกด้วยครับ

blogadmin

blogadmin