จากสภาพเศษฐกิจโลกในปัจจุบันนั้น มีแนวโน้มที่จะขาดสภาพคล่องและเกิดการชะลอตัวทางเกิดขึ้นทั่วๆ ไป ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในด้านต่างๆ มากมายเลยหล่ะครับ ซึ่งราคาน้ำมันก็มีการปรับเปลี่ยนไปตามสถาพเศษฐกิจเช่นกันครับ โดยทางเลือกในการประหยัดน้ำมันก็ต้องเปลี่ยนการใช้รถเป็นแบบรถไฟฟ้าซึ่งจะมีราคาต่อการชาร์จถูกกว่าการใช้น้ำมันเป็นอย่างมากเลยหล่ะครับ วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ราคารถไฟฟ้าเมื่อเทียบกับรถน้ำมันในปี 2023” กันสักหน่อยครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!
ราคาน้ำมันแพงขึ้นกับปัจจัยใดบ้าง?
●เกิดจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย – ยูเครน และสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญของโลก
●เกิดจากการที่กลุ่มประเทศโอเปก ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ได้ลดกำลังการผลิตน้ำมันลงถึง 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ในปี 2020) ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลน แต่ปัจจุบันกลุ่มโอเปกก็ทยอยผลิตเพิ่มครั้งละ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของโลกอยู่ดี
●สถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี ทำให้เศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกสะดุด แต่ก็เริ่มฟื้นตัวในช่วงนี้ ทำให้ความต้องการบริโภคน้ำมันสูงเกินกว่ากำลังการผลิต นี่คือเหตุปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในรอบ 7 ปี
แม้ประเทศไทยจะขุดน้ำมันได้ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ ต้องนำเข้าเป็นหลัก ข้อมูลเฉลี่ยเดือนมกราคม – ตุลาคม 2564 แสดงให้เห็นความต้องการน้ำมันดิบเพื่อกลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 951,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ไทยมีกำลังการผลิตได้ในประเทศเพียง 100,000 บาร์เรลต่อวัน เท่านั้น
แล้วราคาของรถยนต์ไฟฟ้ากับราคาน้ำมันที่แพงจะคุ้มค่ากันมั้ย?
ต้องขอกล่าวก่อนเลยว่าราคาของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันนั้น ค่อนข้างมีราคาสูงพอสมควรเลยหล่ะครับ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้งานในระยะยาวแล้วนั้น ค่าชาร์จไฟฟ้าย่อมถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันอย่างแน่นอนครับ
ข้อดีของการใข้รถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า
รถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า หรือที่เราเรียกกันว่า “Electric Vehicle (EV)” เป็นรถยนตที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว ไม่มีเครื่องยนต์ระบบสันดาปภายใน ทำให้ไม่มีการปล่อยไอเสียและไม่สร้างมลพิษ ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้สม่ำเสมอเมื่อแบตเตอรี่หมด ผ่านทางที่ชาร์จภายในบ้านหรือสถานีชาร์จไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงในการชาร์จปกติ หรือ 2-4 ชั่วโมงในการชาร์จผ่านแทนชาร์จแบบ Fast Chargeซึ่งจะมีองค์ประกอบหลักๆ ได้แก่ แบตเตอรี่ มอเตอร์ขนาดใหญ่ และอุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า โอดยตัวแปลงจะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ไปเป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสสลับและส่งต่อไปยังมอเตอร์เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนนั้นเองครับ ซึ่งสามารถสรุปเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
●ประหยัดค่าใช้จ่าย รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยคุณประหยัดเงินค่าน้ำมันและค่าซ่อมบำรุงตัวรถ เพราะรถยนต์ชนิดนี้ใช้พลังงานไฟฟ้ามาแทนที่ของน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงและมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยกว่า เพราะ ไม่มีเครื่องยนต์ และไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จึงทำให้การดูแลรักษาเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาในการนำรถยนต์ไปเข้าอู่อยู่บ่อยๆ
●มีความเงียบและอัตราเร่งสูง รถยนต์ไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สู่มอเตอร์เพื่อทำการขับเคลื่อน โดยที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์สันดาป ภายในจึงไม่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ ทำให้เสียงของการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้านั้นเงียบกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหลายเท่า และสามารถทำให้มีอัตราเร่งเป็นไปได้อย่างที่ใจต้องการ เพราะไม่มีขั้นตอนการทดเกียร์นั้นเอง
●ไม่ต้องเสียเวลาเพราะสามารถชาร์จแบตได้ที่บ้านของคุณ การต่อคิวเพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเป็นปัญหากวนใจของหลายคน อีกทั้งบางบ้านไม่มีสถานีบริการน้ำมันที่อยู่ใกล้บ้านจึงทำให้ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังปั๊มน้ำมัน แต่กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น สามารถชาร์จแบตได้ที่บ้านของคุณเอง ซึ่งสามารถชาร์จได้ระหว่างที่นอนหลับ เมื่อตื่นเช้ามารถของคุณก็จะอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียเวลาที่สถานีบริการน้ำมันอีกต่อไป
●ลดมลภาวะทางอากาศ สำหรับโลกของเราที่ตกอยู่ในสภาวะโลกร้อน รถยนต์ไฟฟ้าคือคำตอบที่เหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับการลดมลภาวะของโลก เพราะไม่มีการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่ก่อให้เกิดไอเสียและมลภาวะทางอากาศที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อน เช่นควันไอเสียของรถยนต์ก็จะหายไป
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ “ราคารถไฟฟ้าเมื่อเทียบกับรถน้ำมันในปี 2023” ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุกๆ ท่านกันในวันนี้ หวังว่าจะชอบกันนะครับ
